ระบบการขนส่ง
ขั้นตอนที่ 1 ค้นหาระบบที่ต้องการพัฒนา
· หน้าที่ของแผนกการขนส่ง
คือ มีหน้าที่ขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าให้ตรงตามเวลา และสถานที่ที่กำหนด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ โดยรับสินค้าจากฝ่ายผลิตและคลังสินค้า
· ปัญหาของแผนกการขนส่ง
1. ข้อมูล มีความแตกต่าง เนื่อง ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้ามาก จึงต้องมีการจัดส่งสินค้าหลายที่ ทำให้ไม่ทราบลำดับในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง
2. เอกสารข้อมูลมีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสาร ไม่เป็นระเบียบ
3. เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสารทุกชนิด จัดเอกสารภายในแฟ้ม ค้นหาเอกสารข้อมูลสินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และจัดเก็บไม่เป็นระบบ
4. ถ้าข้อมูลสูญหาย จะทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ
5. ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าอาจใช้เวลานาน เนื่องจากต้องมีการค้นหาข้อมูลลูกค้าก่อน
การเสนอแนวทางเลือก ในการนำระบบพัฒนาระบบการผลิตมาใช้งาน
เราพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ งานไม่สามารถดำเนินไปตามแผนที่กำหนด ไม่ทราบความคืบหน้าของงาน แล้วยังตรวจสอบได้อีกด้วยว่ามาตรฐานในการทำงานไม่ชัดเจน จึงอาจเกิดความล้าช้าของงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น เพื่อลดปัญหาต่างๆลง ได้มีการเสนอโครงการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นทางทีมงานได้รวมรวบข้อมูลจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องและนำเสนอผู้บริหารจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ โดยมีแนวทางเลือกในการพัฒนาโครงการ 2 แนวทางคือ
1.จัดซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
2.จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
3.การใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ
ระบบการขนส่ง
ขั้นตอนที่ 1 ค้นหาระบบที่ต้องการพัฒนา
· หน้าที่ของแผนกการขนส่ง
คือ มีหน้าที่ขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าให้ตรงตามเวลา และสถานที่ที่กำหนด เพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ โดยรับสินค้าจากฝ่ายผลิตและคลังสินค้า
· ปัญหาของแผนกการขนส่ง
1. ข้อมูล มีความแตกต่าง เนื่อง ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้ามาก จึงต้องมีการจัดส่งสินค้าหลายที่ ทำให้ไม่ทราบลำดับในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง
2. เอกสารข้อมูลมีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสาร ไม่เป็นระเบียบ
3. เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสารทุกชนิด จัดเอกสารภายในแฟ้ม ค้นหาเอกสารข้อมูลสินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และจัดเก็บไม่เป็นระบบ
4. ถ้าข้อมูลสูญหาย จะทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ
5. ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าอาจใช้เวลานาน เนื่องจากต้องมีการค้นหาข้อมูลลูกค้าก่อน
การเสนอแนวทางเลือก ในการนำระบบพัฒนาระบบการผลิตมาใช้งาน
เราพบว่าปัญหาที่เกิดขึ้นคือ งานไม่สามารถดำเนินไปตามแผนที่กำหนด ไม่ทราบความคืบหน้าของงาน แล้วยังตรวจสอบได้อีกด้วยว่ามาตรฐานในการทำงานไม่ชัดเจน จึงอาจเกิดความล้าช้าของงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น เพื่อลดปัญหาต่างๆลง ได้มีการเสนอโครงการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นทางทีมงานได้รวมรวบข้อมูลจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องและนำเสนอผู้บริหารจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ โดยมีแนวทางเลือกในการพัฒนาโครงการ 2 แนวทางคือ
1.จัดซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
2.จ้างบริษัทภายนอกเพื่อพัฒนาระบบ
3.การใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทางเลือกที่ 1 : ซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกซื้อ Software A มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
แนวทางเลือกที่ 2 ว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบ
การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและว่าจ้างบริษัท A มาติดตั้งระบบ เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 5 เดือน และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท ( ค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา ค่าเบ็ดเตล็ด และค่าสำรองฉุกเฉิน )
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ (In-House Development) เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของพนักงานภายในบริษัท พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการและมอบหมายแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง คอยควบคุมดูแลทีมงานพัฒนาให้ดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป้าหมาย
นำระบบสาระสนเทศเพื่อการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง บริษัทเพื่อลดภาระของพนักงานขนส่งและจะได้มีคำนวณการ ขนส่งในระยะเวลา เป้าหมายได้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด
วัตถุประสงค์
โครงการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาให้เป็นระบบพนักงานขนส่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ขอบเขตของระบบ
โครงการพัฒนาระบบการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่งของบริษัทได้มีการจัดทำขึ้นโดยใช้ทีมงามเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบมารับผิดชอบโครงการ พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ระบบจะต้องรองรับการทำงานแบบ Multi-User ได้
2. ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก
3. ระบบจะต้องแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน แต่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้
4. ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
5. ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
6. ระบบสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้
ปัญหาที่พบจากระบบเดิม
1. ข้อมูล มีความแตกต่าง เนื่อง ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้ามาก จึงต้องมีการจัดส่งสินค้าหลายที่ ทำให้ไม่ทราบลำดับในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง
2. เอกสารข้อมูลมีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสาร ไม่เป็นระเบียบ
3. เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสารทุกชนิด จัดเอกสารภายในแฟ้ม ค้นหาเอกสารข้อมูล สินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และจัดเก็บไม่เป็นระบบ
4. ถ้าข้อมูลสูญหาย จะทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ
5. ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าอาจใช้เวลานาน เนื่องจากต้องมีการค้นหาข้อมูลลูกค้าก่อน
ความต้องการในระบบใหม่
1. เพิ่มความถูกต้องในการตรวจสอบระบบของพนักงานขนส่ง
2. ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
3. สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ การขนส่งสินค้า และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้
4. สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
5. การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกฝ่าย เช่น พนักงานขนส่ง
ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
1. บริษัทสามารถทราบว่าการส่งของถึงลูกค้าในระยะเวลาที่ต้องการ และครบถ้วนได้
2. บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น
3. ขั้นตอนการทำงานของระบบการคลังในบริษัทที่มีความรวดเร็ว
4. การทำงานของพนักงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
5. ลดระยะเวลาในการทำงาน
6. บริษัทมีความเชื่อถือ ในการขนส่งสินค้าต่อผู้บริโภค
แนวทางในการพัฒนา
การพัฒนาระบบ เป็นการพัฒนาระบบในส่วน ของแผนกฝ่ายขนส่งในส่วนของการทำงานเกี่ยวกับฝ่ายขนส่ง ต่างๆ เช่นเช็ค พนักงานขนส่งสินค้า เพื่อลดภาระของฝ่ายขนส่งสินค้าตามความต้องการในระบบใหม่ที่ทีมงานได้รวบรวมจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และผ่านการอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้วจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ
1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
2. การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
3. การวิเคราะห์ระบบ
4. การออกแบบเชิงตรรกะ
5. การออกแบบเชิงกายภาพ
6. การพัฒนาและติดตั้งระบบ
7. การซ่อมบำรุงระบบ
ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project Identification and Selection )
เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการระบบเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร
ดังนั้นจึงได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบคือบริษัทสวีทตี้ ข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในส่วนของระบบที่ต้องการแก้ไขคือ
- ระบบขนส่ง
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้นตอนอื่นอีกมากที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนนี้ได้ดังนี้
· เริ่มต้นทำโครงการ ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
· กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
· วางแผนการทำงานของระบบใหม่
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์
ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิมดูว่าการทำงานของบริษัทมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดิมและระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนในส่วนของระบบการสั่งจองสินค้า
การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ
จำลองแบบความต้องการที่รวบรวมได้ เมื่อเรารวบรวมข้อมูลมาได้แล้วก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้ ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบเชิงตรรกะ
เป็นการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนกของงาน ซึ่งในการออกแบบระบบระบบงานที่ได้ในแต่ละงานจะไม่เหมือนกันซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์มหรือผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเราวิเคราะห์ระบบงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเชิงกายภาพ
ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของระบบในส่วนของเทคนิคของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบอาจจะเป็นระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถเข้าใจขั้นตอนการทำงานมากขึ้น และมีความรวดเร็ว ซึ่งสิ่งที่ได้ในส่วนนี้จะเป็นแค่การออกแบบหลังจากนั้นจะทำการส่งให้โปรแกรมเมอร์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียนโปรแกรม เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่ อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้ หรือจัดทำโปรแกรมขึ้นมาเอง แต่อาจจะมีความยุ่งยากไปหน่อย หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้มีกระบวนการทำงานดังนี้
1. เขียนโปรแกรม
2. ทดสอบโปรแกรม
3. ติดตั้งระบบ
4. จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุงระบบ
อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาด
แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระบบการผลิตสินค้า และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
- ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
- ประมาณการใช้ทรัพยากรในการผลิต
- ประมาณการใช้งบประมาณ
- ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
1. ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 คน จะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังต่อไปนี้
นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์ จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
โปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบเพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับจากผู้ใช้ระบบ
2. ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
ปัจจุบันทางบริษัทใช้ระบบเครือข่าย LAN อยู่แล้วมีรายละเอียดต่อไปนี้
1.เครื่องแม่ข่าย server จำนวน 1 เครื่อง
2.เครื่องลูกข่าย (Workstation) จำนวน20 เครื่อง
3.เครื่องพิมพ์ (Printer) 6เครื่อง
4. อุปกรณ์ต่อพวง 7 ชุด (ตามความเหมาะสม)
ประมาณการใช้งบประมาณ
1. ค่าตอบแทนสำหรับทีมพัฒนาระบบ 120,000 บาท
2. ค่าอุปกรณ์ต่างๆในการดำเนินงาน 75,000 บาท
3. ค่าบำรุงรักษาระบบ 35,000 บาท
รวม 230,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาการดำเนินงานของโครงการระบบการขาย จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นระยะเวลาในการดำเนินงานของการพัฒนาระบบการผลิตของบริษัท
รายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหาร
จากการที่ได้ศึกษาโครงการส่งเสริมการขายปัญหาที่พบในระบบ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของบริษัท ลูกค้า และอาจจะส่งผลต่อการผลิต เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ในด้านการบริการ และทางระบบสารสนเทศ ทางบริษัทจึงต้องจัดทำแผนพัฒนาระบบใหม่ขึ้น เพื่อที่จะนำไปพัฒนา
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดความต้องการของระบบ
เมื่อโครงการพัฒนา ระบบการขนส่ง ได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอโครงการในขั้นตอนที่ผ่านมา ดังนั้น จึงเริ่มต้นด้วยความการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเดิม
ความต้องการในระบบใหม่
ความต้องการในระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้ คือ
· สามารถเรียกดูสถานการณ์ส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ ว่าส่งหรือ ยัง
· สามารถออกใบยืนยันการรับของได้
· สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
· ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
ขั้นตอนที่ 4 แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ ระบบพัฒนาระบบการขนส่ง บริษัท กรีน ดราก้อน จำกัด
ขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการของระบบใหม่ (System Requirement Structuring)
อธิบาย Context Diagram ระบบการขนส่ง
จะเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง โดยที่
พนักงาน
- พนักงานจะป้อนข้อมูล สถานการณ์จัดส่ง เข้าสู่ระบบจัดส่ง แล้วระบบจะทำการส่ง ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้ากลับมา และ พนักงานสามารถทำใบเบิกสินค้า ได้เพื่อนำสินค้าไปส่งให้พนักงาน
ผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง
- สามารถทำการเรียกดูข้อมูลสถานการณ์จัดส่งสินค้าได้ ระบบก็จะส่งรายงานสถานการณ์จัดส่งสินค้า ให้กับผู้จัดการการขนส่ง
ลูกค้า
- จะได้รับข้อมูลการยืนยัน สถานะ การส่งของจากระบบ
Data Flow Diagram Level 0
อธิบาย Dataflow Diagram Level 0
Process 1.0
เป็นระบบการเข้าใช้งานระบบโดยที่จะต้อง Login เข้าใช้งานระบบก่อนจึงเข้าไปใช้งานระบบอื่นๆได้
Process 2.0
ระบบขนส่งนั้น พนักงานจะเพิ่มข้อมูลสถานะเข้าสู่ระบบแล้วระบบจะทำการส่งข้อมูลรายการสั่งซื้อของ ลูกค้าคนนั้นมา แล้วจะนำข้อมูลสถานะที่ถูกเพิ่มไปเก็บไว้ที่ไฟล์ข้อมูล การสั่งซื้อของลูกค้าอยู่
ผู้จัดการฝ่ายขนส่งก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลรายงานการจัดส่งได้ Process 3.0
เป็นการแจ้งสถานะไปที่ลูกค้าว่าสถานะนี้ คือ ส่งของในออเดอร์ นี้ให้กับลูกค้าหรือยัง เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.0
เป็นระบบที่มีไว้สำหรับการทำใบเบิกสินค้าออกจากคลังเพื่อนำสินค้าไปส่งยังเป้าหมาย
อธิบาย Dataflow Diagram Level 1
Process 1.1
เป็นการตรวจสอบการเข้าใช้งานระบบโดยจะทำการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านว่าตรงกับข้อมูลในฐานข้อมูลผู้ใช้หรือไม่
Process 2.1
จะทำการเพิ่มข้อมูลสถานะที่ได้จากพนักงานไปบันทึกลงในฐานข้อมูลว่าออเดอร์ไหนที่จัดส่งของแล้ว หรือยังไม่ได้จัดส่ง
Process 2.2
จัดทำรายงานเมื่อมีการเรียกดูข้อมูลจากผู้จัดการฝ่าย แล้วจะทำการดึงข้อมูลจาก ฐานข้อมูล มาทำเป็นรายงาน
Process 3.1
เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.1
เมื่อพนักงานทำการเพิ่มลบ แก้ไข ข้อมูล ระบบจะทำการ เพิ่ม ลบ และแก้ไข ข้อมูลลงใน ตารางเบิกสินค้า
Process 4.2
จะทำการดึงข้อมูลจากตารางข้อมูลมาทำการพิมพ์ใบเบิกสินค้า
ออกแบบฐานข้อมูล
ฐานข้อมูลตาราง user เก็บข้อมูลของรายชื่อลูกค้า
ฐานข้อมูลกาสั่งซื้อ เก็บข้อมูลการสั่งซื้อ
ฐานข้อมูลการเบิกสินค้า
ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบ User
Interface
หน้าเข้าสู่ระบบ
เมื่อเข้าสู่ระบบจะมีเมนูให้เลือก
หน้าตาโปรแกรมเมื่อเลือกเมนูการตรวจสอบสถานะการจัดส่ง
หน้าตาโปรแกรมเมื่อเลือกเมนูการเบิกสินค้า
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทีมงานได้จัดทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมของระบบการขนส่งสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบบสามารถเข้าใจการทำงานของโปรแกรมมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้แนะนำระบบโปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า
โปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า เป็นโปรแกรมที่ทำซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยทั้งหมด 2 ระบบได้แก่
1.ระบบยืนยันสถานะ การขนส่งสินค้าเพื่อให้ทราบถึงข้อมูลการทำงานส่งสินค้า
2.ระบบพิมพ์ใบรับ พิมพ์ใบรับสินค้าเพื่อเป็นหลักฐานในการรับสินค้า
การติดตั้งระบบ ทีมงานเลือกที่จะติดตั้งระบบ ขนานคือการใช้ระบบใหม่และระบบเก่า ไปพร้อมๆกัน เพราะทีมงานที่พัฒนาระบบได้เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินงาน เพราะถ้าหากวางระบบใหม่ทั้งหมดทีเดียว อาจทำให้การดำเนินงานเกิด การขัดข้องได้จึงได้เลือกที่จะติดตั้งระบบแบบขนาน
ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุงนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาระบบว่าระบบนั้นมีปัญหาอะไรบ้างจะอยู่ในความดูแลของผู้พัฒนาระบบมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเมื่อระบบมีปัญหาทางผู้พัฒนาระบบอาจจะทำการซ่อมแซมระบบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาในส่วนที่เสียไป
ทางเลือกที่ 1 : ซื้อซอฟแวร์สำเร็จรูป
มีรายละเอียดดังตารางต่อไปนี้
การประเมินแนวทางเลือกที่ 1
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 1
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและคัดเลือกซื้อ Software A มาใช้งาน เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
แนวทางเลือกที่ 2 ว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบ
การประเมินแนวทางเลือกที่ 2
ทางทีมงานได้ทำการประเมินผลแนวทางเลือกว่าจ้างบริษัทติดตั้งระบบที่เหมาะสม โดยกำหนดเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) เชิงปริมาณเปรียบเทียบไว้เป็น 4 ระดับ ดังนี้
น้ำหนักเท่ากับ 4 ช่วงคะแนน 100-90 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดีมาก
น้ำหนักเท่ากับ 3 ช่วงคะแนน 89-70 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ดี
น้ำหนักเท่ากับ 2 ช่วงคะแนน 69-50 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ พอใช้
น้ำหนักเท่ากับ 1 ช่วงคะแนน 49-30 เปอร์เซ็นต์ เกณฑ์ที่ได้ ปรับปรุง
ซึ่งผลจากการประเมิน โดยการให้น้ำหนักหรือคะแนนของทีมงาน ปรากฏผลดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 2
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกและว่าจ้างบริษัท A มาติดตั้งระบบ เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด
สรุปผลการประเมินแนวทางเลือกที่ 3
ทางทีมงานพิจารณาแล้วว่า มีขีดความสามารถที่จะพัฒนาระบบได้ตามข้อกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิคและความต้องการของผู้ใช้งานตามที่จัดทำโดยใช้ระยะเวลาดำเนินการจำนวนทั้งสิ้น 5 เดือน และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวนเงินทั้งสิ้น 250,000 บาท ( ค่าเงินเดือน ค่าอุปกรณ์ ค่าล่วงเวลา ค่าเบ็ดเตล็ด และค่าสำรองฉุกเฉิน )
ผู้บริหารเลือกแนวทางที่ดีที่สุด
หลังจากหัวหน้าทีมงานได้เสนอแนวทางเลือก โดยจัดทำข้อมูลเปรียบเทียบและข้อเสนอแนะแก่ทีมผู้บริหาร โดยใช้กฎเกณฑ์การให้น้ำหนัก (คะแนน) ดังตารางต่อไปนี้
สรุปผลการประเมินโดยทีมงานผู้บริหาร
ทางทีมงานผู้บริหารได้พิจารณาตัดสินใจเลือกแนวทางใช้ทีมงานเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบ (In-House Development) เนื่องจากมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการมากที่สุด นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีของพนักงานภายในบริษัท พร้อมทั้งได้กำหนดมาตรการและมอบหมายแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง คอยควบคุมดูแลทีมงานพัฒนาให้ดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป้าหมาย
นำระบบสาระสนเทศเพื่อการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง บริษัทเพื่อลดภาระของพนักงานขนส่งและจะได้มีคำนวณการ ขนส่งในระยะเวลา เป้าหมายได้ถูกต้องตามเวลาที่กำหนด
วัตถุประสงค์
โครงการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่ง มีวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานเพื่อวิเคราะห์ ออกแบบ และพัฒนาให้เป็นระบบพนักงานขนส่งที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ
ขอบเขตของระบบ
โครงการพัฒนาระบบการการพัฒนาระบบฝ่ายขนส่งของบริษัทได้มีการจัดทำขึ้นโดยใช้ทีมงามเดิมพัฒนาและติดตั้งระบบมารับผิดชอบโครงการ พร้อมกันนี้ได้กำหนดขอบเขตของระบบนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. ระบบจะต้องรองรับการทำงานแบบ Multi-User ได้
2. ระบบจะต้องใช้งานง่ายและสะดวก
3. ระบบจะต้องแบ่งการทำงานอย่างชัดเจน แต่ข้อมูลสามารถเชื่อมโยงกันได้
4. ระบบจะต้องเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุดต่อการทำงาน
5. ระบบจะต้องมีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด
6. ระบบสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้
ปัญหาที่พบจากระบบเดิม
1. ข้อมูล มีความแตกต่าง เนื่อง ลูกค้ามีการสั่งซื้อสินค้ามาก จึงต้องมีการจัดส่งสินค้าหลายที่ ทำให้ไม่ทราบลำดับในการจัดส่งสินค้าที่ถูกต้อง
2. เอกสารข้อมูลมีจำนวนมาก เนื่องจากสินค้ามีหลายชนิดและหลายขนาด ทำให้การจัดเก็บเอกสาร ไม่เป็นระเบียบ
3. เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บแฟ้มเอกสารทุกชนิด จัดเอกสารภายในแฟ้ม ค้นหาเอกสารข้อมูล สินค้าได้ยาก เนื่องจากเอกสารมีจำนวนมาก และจัดเก็บไม่เป็นระบบ
4. ถ้าข้อมูลสูญหาย จะทำให้ไม่สามารถจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจ
5. ระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าอาจใช้เวลานาน เนื่องจากต้องมีการค้นหาข้อมูลลูกค้าก่อน
ความต้องการในระบบใหม่
1. เพิ่มความถูกต้องในการตรวจสอบระบบของพนักงานขนส่ง
2. ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
3. สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ การขนส่งสินค้า และสามารถตรวจสอบข้อมูลได้
4. สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
5. การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานทุกฝ่าย เช่น พนักงานขนส่ง
ประโยชน์ที่ได้รับจากระบบใหม่
1. บริษัทสามารถทราบว่าการส่งของถึงลูกค้าในระยะเวลาที่ต้องการ และครบถ้วนได้
2. บริษัทมีผลการดำเนินการที่ดีขึ้น
3. ขั้นตอนการทำงานของระบบการคลังในบริษัทที่มีความรวดเร็ว
4. การทำงานของพนักงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
5. ลดระยะเวลาในการทำงาน
6. บริษัทมีความเชื่อถือ ในการขนส่งสินค้าต่อผู้บริโภค
แนวทางในการพัฒนา
การพัฒนาระบบ เป็นการพัฒนาระบบในส่วน ของแผนกฝ่ายขนส่งในส่วนของการทำงานเกี่ยวกับฝ่ายขนส่ง ต่างๆ เช่นเช็ค พนักงานขนส่งสินค้า เพื่อลดภาระของฝ่ายขนส่งสินค้าตามความต้องการในระบบใหม่ที่ทีมงานได้รวบรวมจากผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าว และผ่านการอนุมัติให้ดำเนินโครงการแล้วจากนั้นจึงได้จำลองขั้นตอนการทำงานของระบบใหม่นำเสนอให้ผู้บริหารและผู้ใช้ระบบเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและนำมาแก้ไขให้ตรงตามความต้องการ
1. การค้นหาและเลือกสรรโครงการ
2. การเริ่มต้นและการวางแผนโครงการ
3. การวิเคราะห์ระบบ
4. การออกแบบเชิงตรรกะ
5. การออกแบบเชิงกายภาพ
6. การพัฒนาและติดตั้งระบบ
7. การซ่อมบำรุงระบบ
ขั้นตอนที่ 1 การค้นหาและเลือกสรรโครงการ ( Project Identification and Selection )
เป็นขั้นตอนในการค้นหาโครงการเพื่อพัฒนาระบบใหม่ให้เหมาะสมกับระบบเดิมหรือให้เหมาะสมกับองค์กรที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือต้องการระบบเพื่อนำมาใช้ในการบริหารงานในส่วนที่เกิดความบกพร่องของบริษัท เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานขององค์กร
ดังนั้นจึงได้ยกตัวอย่างบริษัทที่ต้องการพัฒนาระบบคือบริษัทสวีทตี้ ข้อมูลดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ในส่วนของระบบที่ต้องการแก้ไขคือ
- ระบบขนส่ง
ขั้นตอนที่ 2 การเริ่มต้นและวางแผนโครงการ
เป็นขั้นตอนในการเริ่มต้นทำโครงการด้วยการเริ่มต้นจัดตั้งทีมงาน ซึ่งเราจะต้องกำหนดหน้าที่ให้กับทีมงานแต่ละคนอย่างชัดเจนเพื่อร่วมกันสร้างแนวทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้งานและนอกจากขั้นตอนดังกล่าวแล้วยังมีขั้นตอนอื่นอีกมากที่เกี่ยวข้องซึ่งเราสามารถสรุปกิจกรรมในขั้นตอนนี้ได้ดังนี้
· เริ่มต้นทำโครงการ ก่อนเริ่มทำโครงการเราควรศึกษาระบบเดิมในการทำงานก่อน
· กำหนดวัตถุประสงค์หรือทางเลือกในการนำระบบใหม่มาใช้
· วางแผนการทำงานของระบบใหม่
ขั้นตอนที่ 3 การวิเคราะห์
ศึกษาขั้นตอนการทำงานของระบบเดิมดูว่าการทำงานของบริษัทมีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างไรและเหตุใดจึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงระบบเดิมและระบบที่เปลี่ยนแปลงนี้จะเปลี่ยนในส่วนของระบบการสั่งจองสินค้า
การรวบรวมความต้องการในระบบใหม่จากผู้ใช้ระบบ ศึกษาหรือสอบถามข้อมูลของระบบเดิมจากพนักงานหรือผู้ใช้ระบบ
จำลองแบบความต้องการที่รวบรวมได้ เมื่อเรารวบรวมข้อมูลมาได้แล้วก็สามารถออกแบบจำลองดังกล่าวได้ ด้วยวิธีการใดก็ได้ที่นักวิเคราะห์ระบบนำมาใช้ในการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 4 การออกแบบเชิงตรรกะ
เป็นการออกแบบขั้นตอนการทำงานของระบบในแต่ละส่วนงานหรือแต่ละแผนกของงาน ซึ่งในการออกแบบระบบระบบงานที่ได้ในแต่ละงานจะไม่เหมือนกันซึ่งอาจจะมีแบบฟอร์มหรือผลลัพธ์ที่ได้เมื่อเราวิเคราะห์ระบบงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนที่ 5 การออกแบบเชิงกายภาพ
ในขั้นตอนนี้เป็นการทำงานของระบบในส่วนของเทคนิคของโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในการปรับปรุงระบบอาจจะเป็นระบบเครือข่าย ฐานข้อมูล โปรแกรมสำเร็จรูป เพื่อให้ผู้ใช้งานระบบสามารถเข้าใจขั้นตอนการทำงานมากขึ้น และมีความรวดเร็ว ซึ่งสิ่งที่ได้ในส่วนนี้จะเป็นแค่การออกแบบหลังจากนั้นจะทำการส่งให้โปรแกรมเมอร์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ขั้นตอนนี้จะนำข้อมูลเฉพาะในส่วนที่ต้องการออกแบบของระบบมาทำการเขียนโปรแกรม เพื่อให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่ต้องการของระบบงานใหม่ อาจนำโปรแกรมที่เขียนสำเร็จรูปแล้วมาใช้งานในระบบก็ได้ หรือจัดทำโปรแกรมขึ้นมาเอง แต่อาจจะมีความยุ่งยากไปหน่อย หลังจากเขียนโปรแกรมแล้วเราก็ควรทำการทดลองว่าโปรแกรมใช้งานได้เหมาะสมกับการทำงานของบริษัทหรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้มีกระบวนการทำงานดังนี้
1. เขียนโปรแกรม
2. ทดสอบโปรแกรม
3. ติดตั้งระบบ
4. จัดทำเอกสาร สรุปผลการทำงานของระบบ
ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุงระบบ
อาจจะเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการปรับปรุงระบบ เพราะหลังจากได้ระบบใหม่มาแล้ว เราก็นำเอาระบบที่ได้มานี้ทำการแก้ไขหากระบบที่ได้มาเกิดข้อผิดพลาด
แผนการดำเนินงานของโครงการ
แผนการดำเนินงานของโครงการที่ต้องการวิเคราะห์ระบบที่มีการเปลี่ยนแปลง คือ ระบบการผลิตสินค้า และส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมีดังต่อไปนี้
- ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการ
- ประมาณการใช้ทรัพยากรในการผลิต
- ประมาณการใช้งบประมาณ
- ประมาณระยะเวลาดำเนินงาน
1. ทีมงานรับผิดชอบโครงการ
ทีมงานผู้รับผิดชอบโครงการที่จะได้รับมอบหมาย คือ บุคลากรแผนกคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 คน จะดำรงตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ดังต่อไปนี้
นักวิเคราะห์และออกแบบระบบ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์และออกแบบระบบ ตลอดจนเก็บรวบรวมข้อมูลและติดต่อประสานงานระหว่างผู้ใช้กับทีมโปรแกรมเมอร์ จัดทำเอกสารของระบบ ทดสอบโปรแกรมของระบบ และอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
โปรแกรมเมอร์ ทำหน้าที่ในการเขียนและติดตั้งโปรแกรมของระบบ รวมทั้งทดสอบโปรแกรมและพัฒนาตัวต้นแบบเพื่อสอบถามความคิดเห็นและผลการตอบรับจากผู้ใช้ระบบ
2. ประมาณการใช้แหล่งทรัพยากร
ปัจจุบันทางบริษัทใช้ระบบเครือข่าย LAN อยู่แล้วมีรายละเอียดต่อไปนี้
1.เครื่องแม่ข่าย server จำนวน 1 เครื่อง
2.เครื่องลูกข่าย (Workstation) จำนวน20 เครื่อง
3.เครื่องพิมพ์ (Printer) 6เครื่อง
4. อุปกรณ์ต่อพวง 7 ชุด (ตามความเหมาะสม)
ประมาณการใช้งบประมาณ
1. ค่าตอบแทนสำหรับทีมพัฒนาระบบ 120,000 บาท
2. ค่าอุปกรณ์ต่างๆในการดำเนินงาน 75,000 บาท
3. ค่าบำรุงรักษาระบบ 35,000 บาท
รวม 230,000 บาท
ระยะเวลาดำเนินงาน
ระยะเวลาการดำเนินงานของโครงการระบบการขาย จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 ถึง 1 กุมภาพันธ์ 2557 เป็นระยะเวลาในการดำเนินงานของการพัฒนาระบบการผลิตของบริษัท
รายงานสรุปผลสำหรับผู้บริหาร
จากการที่ได้ศึกษาโครงการส่งเสริมการขายปัญหาที่พบในระบบ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการปฏิบัติงานของบริษัท ลูกค้า และอาจจะส่งผลต่อการผลิต เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน ในด้านการบริการ และทางระบบสารสนเทศ ทางบริษัทจึงต้องจัดทำแผนพัฒนาระบบใหม่ขึ้น เพื่อที่จะนำไปพัฒนา
ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดความต้องการของระบบ
เมื่อโครงการพัฒนา ระบบการขนส่ง ได้รับการอนุมัติจากการนำเสนอโครงการในขั้นตอนที่ผ่านมา ดังนั้น จึงเริ่มต้นด้วยความการเก็บรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบเดิม
ความต้องการในระบบใหม่
ความต้องการในระบบใหม่ที่รวบรวมมาได้ คือ
· สามารถเรียกดูสถานการณ์ส่งสินค้าให้กับลูกค้าได้ ว่าส่งหรือ ยัง
· สามารถออกใบยืนยันการรับของได้
· สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
· ความรวดเร็วของระบบใหม่ในการทำงาน
ขั้นตอนที่ 4 แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ
แบบจำลองขั้นตอนการทำงานของระบบ ระบบพัฒนาระบบการขนส่ง บริษัท กรีน ดราก้อน จำกัด
ขั้นตอนการวิเคราะห์ความต้องการของระบบใหม่ (System Requirement Structuring)
อธิบาย Context Diagram ระบบการขนส่ง
จะเป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกับพนักงานและผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง โดยที่
พนักงาน
- พนักงานจะป้อนข้อมูล สถานการณ์จัดส่ง เข้าสู่ระบบจัดส่ง แล้วระบบจะทำการส่ง ข้อมูลการสั่งซื้อสินค้ากลับมา และ พนักงานสามารถทำใบเบิกสินค้า ได้เพื่อนำสินค้าไปส่งให้พนักงาน
ผู้จัดการฝ่ายการขนส่ง
- สามารถทำการเรียกดูข้อมูลสถานการณ์จัดส่งสินค้าได้ ระบบก็จะส่งรายงานสถานการณ์จัดส่งสินค้า ให้กับผู้จัดการการขนส่ง
ลูกค้า
- จะได้รับข้อมูลการยืนยัน สถานะ การส่งของจากระบบ
Data Flow Diagram Level 0
อธิบาย Dataflow Diagram Level 0
Process 1.0
เป็นระบบการเข้าใช้งานระบบโดยที่จะต้อง Login เข้าใช้งานระบบก่อนจึงเข้าไปใช้งานระบบอื่นๆได้
Process 2.0
ระบบขนส่งนั้น พนักงานจะเพิ่มข้อมูลสถานะเข้าสู่ระบบแล้วระบบจะทำการส่งข้อมูลรายการสั่งซื้อของ ลูกค้าคนนั้นมา แล้วจะนำข้อมูลสถานะที่ถูกเพิ่มไปเก็บไว้ที่ไฟล์ข้อมูล การสั่งซื้อของลูกค้าอยู่
ผู้จัดการฝ่ายขนส่งก็จะสามารถเรียกดูข้อมูลรายงานการจัดส่งได้ Process 3.0
เป็นการแจ้งสถานะไปที่ลูกค้าว่าสถานะนี้ คือ ส่งของในออเดอร์ นี้ให้กับลูกค้าหรือยัง เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.0
เป็นระบบที่มีไว้สำหรับการทำใบเบิกสินค้าออกจากคลังเพื่อนำสินค้าไปส่งยังเป้าหมาย
อธิบาย Dataflow Diagram Level 1
Process 1.1
เป็นการตรวจสอบการเข้าใช้งานระบบโดยจะทำการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งานและรหัสผ่านว่าตรงกับข้อมูลในฐานข้อมูลผู้ใช้หรือไม่
Process 2.1
จะทำการเพิ่มข้อมูลสถานะที่ได้จากพนักงานไปบันทึกลงในฐานข้อมูลว่าออเดอร์ไหนที่จัดส่งของแล้ว หรือยังไม่ได้จัดส่ง
Process 2.2
จัดทำรายงานเมื่อมีการเรียกดูข้อมูลจากผู้จัดการฝ่าย แล้วจะทำการดึงข้อมูลจาก ฐานข้อมูล มาทำเป็นรายงาน
Process 3.1
เมื่อพนักงานเพิ่มข้อมูลให้กับออเดอร์ของลูกค้าว่าส่งแล้ว ระบบจะทำการส่งสถานการณ์ส่งของไปให้กับลูกค้า
Process 4.1
เมื่อพนักงานทำการเพิ่มลบ แก้ไข ข้อมูล ระบบจะทำการ เพิ่ม ลบ และแก้ไข ข้อมูลลงใน ตารางเบิกสินค้า
Process 4.2
จะทำการดึงข้อมูลจากตารางข้อมูลมาทำการพิมพ์ใบเบิกสินค้า
ออกแบบฐานข้อมูล
ฐานข้อมูลตาราง user เก็บข้อมูลของรายชื่อลูกค้า
ขั้นตอนที่ 6 การพัฒนาและติดตั้งระบบ
ทีมงานได้จัดทำเอกสารคู่มือการใช้งานโปรแกรมของระบบการขนส่งสินค้า เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ระบบสามารถเข้าใจการทำงานของโปรแกรมมากยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้แนะนำระบบโปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า
โปรแกรมระบบการขนส่งสินค้า เป็นโปรแกรมที่ทำซึ่งประกอบด้วยระบบย่อยทั้งหมด 2 ระบบได้แก่
1.ระบบยืนยันสถานะ การขนส่งสินค้าเพื่อให้ทราบถึงข้อมูลการทำงานส่งสินค้า
2.ระบบพิมพ์ใบรับ พิมพ์ใบรับสินค้าเพื่อเป็นหลักฐานในการรับสินค้า
การติดตั้งระบบ ทีมงานเลือกที่จะติดตั้งระบบ ขนานคือการใช้ระบบใหม่และระบบเก่า ไปพร้อมๆกัน เพราะทีมงานที่พัฒนาระบบได้เล็งเห็นความสำคัญในการดำเนินงาน เพราะถ้าหากวางระบบใหม่ทั้งหมดทีเดียว อาจทำให้การดำเนินงานเกิด การขัดข้องได้จึงได้เลือกที่จะติดตั้งระบบแบบขนาน
ขั้นตอนที่ 7 การซ่อมบำรุง
การซ่อมบำรุงนั้นจะขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาระบบว่าระบบนั้นมีปัญหาอะไรบ้างจะอยู่ในความดูแลของผู้พัฒนาระบบมีการดูแลระบบอย่างต่อเนื่องเมื่อระบบมีปัญหาทางผู้พัฒนาระบบอาจจะทำการซ่อมแซมระบบอย่างรวดเร็วเพื่อแก้ปัญหาในส่วนที่เสียไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น